เนื้อคู่ประตูไหนดี ฉบับแก้ไขสำนวน&คำผิด >>จิ้ม<<
Fiction : Shingeki no Kyojin : Attack on Titan
Title : เนื้อคู่ ประตูไหนดี
Author : มิดไนท์-Sama
Pairing : All Eren
Rating : PG 15 (แค่ในตอนนี้นะ อนาคตจะมีปลี่ยนเรื่อยๆเป็นตอนๆไป)
Warning : -
_______________________________________________
ตอนที่ 1
เสียงจังหวะดนตรีดุเด็ดเผ็ดมันดังกระหึ่มอยู่ภายในผับการพนันเถื่อน ร่างเย้ายวนขาวนวลของเหล่าหญิงสาวขายบริการเต้นส่ายยั่วใจชายโฉดอยู่บนเวที รีไวนั่งมองร่างที่ดีดดิ้นส่ายไปมาที่อยู่บนเวทีด้วยความเฉยชา สำหรับผู้มีอิทธิพลมืดอำนาจคับฟ้าที่ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็ได้แต่สิ่งที่เขาอยากได้มาโดยง่ายดาย ไม่ว่าจะเงิน อำนาจ ผู้หญิง ผู้ชาย และเซ็กส์เริ่มชินชาเสียแล้ว ผู้หญิงทั้งหลายที่เต้นดีดดิ้นอยู่บนเวทีเขาก็ได้ลองเชยชมมาหมดแล้วทั้งนั้น
...น่าเบื่อ...
มือแกร่งยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่ม สายตายังไม่ยอมละจากเวทีถึงแม้มันจะน่าเบื่อก็ตามที
“เฮอะ เต้นได้แต่ท่าเดิมๆรึไง” รีไวสบท ไม่นานนักเขาก็รู้สึกได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ขยับกายเคลื่อนไหวเดินเข้ามานั่งด้านข้าง
“ไม่ได้เจอกันนานนะรีไว ยังทำหน้าตายเหมือนเดิม”
“นายมาทำอะไรที่นี่ เอลวิน”
“ก็มาเที่ยวแก้เบื่อนิดหน่อย”
“แล้วหายเบื่อ?”
“ไม่ ก็เหมือนนายนั่นแหละ ไม่มีอะไรตื่นเต้นหรือแปลกใหม่ น่าเบื่อ...สำหรับพวกเราที่แค่เอ่ยปากก็ได้ทุกอย่าง”
เอลวิน สมิธ หัวหน้าแก๊งอิทธิพลมืดนามของกลุ่มนั้นคือปีกแห่งอิสรภาพทำหน้าเซ็ง เขามาเดินเล่นในผับเถื่อนครบครันด้วยของผิดกฎหมายของตัวเองเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยก็บังเอิญมาพบกับเพื่อนสนิทที่มีฐานะเป็นรองหัวหน้าของเขา จึงเดินมานั่งข้างๆคุยกันนิดหน่อยตามประสา
ถ้าหากพูดถึงองค์กรมืดหรือองค์กรใต้ดินที่มีอิทธิพลขนาดใหญ่คงหนีไม่พ้นกลุ่มปีกแห่งอิสรภาพของพวกเขาเป็นแน่ นอกนั้นก็ยังมีกลุ่มคู่แข่งอีกสองกลุ่มคือกลุ่มกุหลาบคลั่งละเลงเลือดและกลุ่มโซ่ตรวนของยูนิคอร์น สามกลุ่มนี้จัดได้ว่าเป็นแก๊งน้ำกับน้ำมันได้เลยทีเดียว เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เจอหน้ากันเป็นอันต้องมีการนองเลือดเกิดขึ้นทุกครั้ง
“นั่นมัน...มิคาสะ!” เอลวินโบกมือเรียกชายหนุ่มร่างกายสูงโปร่งหน้าตาหล่อเหลาหนึ่งในคนฝีมือดีมียศมีหน้าตาในแก๊งของเขาให้มานั่งด้วยกันเพราะเห็นเดินเตร็ดเตร่ล่องลอยไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรสักเท่าไหร่นัก
“ไม่ถูกกับมันเลยจริงๆ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่รีไวก็ไม่ได้เกลียดเด็กในหน่วยซึ่งอยู่ในความดูแลของตัวเองเท่าไหร่นัก ก็แค่คนที่นิสัยคล้ายกันมักไม่ค่อยถูกกันเท่านั้นเอง ส่วนตัวเด็กหนุ่มมิคาสะนั่นก็คงจะคิดแบบเดียวกับเขา
มิคาสะเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆรีไว ทั้งคู่ต่างจ้องมองกันพลางส่งกระแสไฟฟ้าแสดงความเป็นศัตรูออกมาจนเอลวินที่สัมผัสได้ ได้แต่นั่งถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
“เฮ้อ เมื่อไหร่พวกนายสองคนจะเข้ากันได้สักทีน้า”
“ไม่มีวัน!!!” เสียงประสานเรียบนิ่งดังพร้อมกันขึ้นมาจากชายสองคนที่ทีมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกันโดยสามารถเปรียบได้ว่าห่างกันอยู่เพียงแค่กระดาษบางๆแผ่นเดียวเท่านนั้นก็เป็นได้ เอลวินหวังเพียงแค่ว่าหากสองคนนี้ได้เจอกันโดยที่ไม่มีเขาอยู่ด้วยแล้วล่ะก็มิฆ่ากันจนปางตายเลยหรอกรึ
และแล้วความเงียบกับความเบื่อหน่ายแบบสุดๆก็เข้ามาปกคลุมชายอายุสามสิบกว่าทั้งสองและเด็กหนุ่มอายุสิบห้าอีกหนึ่ง
...ทำไมวันนี้มันช่างหน้าเบื่อขนาดนี้นะ...
เสียงสบทโหยหวนดังขึ้นภายในใจของชายหนุ่มทั้งสาม มิคาสะยกมือขึ้นชี้ตรงไปข้างหน้าเรียกความสนใจขอผู้มีทั้งตำแหน่งและอายุมากกว่าเขาให้หันไปมอง ปรากฏเป็นเพื่อนของเด็กหนุ่มที่กำลังทำหน้าซังกะตายเรื่อยเปื่อยเหมือนคนไร้วิญญาณเดินเตาะแตะเข้ามาหา
“พวกนายก็มาเหรอแจน อาร์มิน” เป็นเอลวินที่เอ่ยถาม
“อา พวกหัวหน้าก็มาหรือครับ” อาร์มินถอนหายใจหนักมองหน้าสามหนุ่มที่นั่งหน้าสลอนเรียงเป็นแถวกระดานอยู่หน้าเคาเตอร์บาร์ “ผมขอเดาว่าในวันที่ว่างๆและสงบสุขเช่นนี้พวกคุณคงต้องเบื่อกันแน่ เพราะผมกับแจนเพิ่งพบกันที่หน้าผับแล้วเหตุผลก็เหมือนกันด้วย แต่ผมก็แปลกใจนะครับที่พวกเรามาเที่ยวที่ผับเดียวกันแบบนี้ ทั้งๆที่สถานบันเทิงอื่นๆที่พวกเราเป็นเจ้าของก็ออกจะมีอยู่เกลื่อนกลาดเลยแท้ๆ” ว่าแล้วอาร์มินก็เดินไปนั่งด้านข้างมิคาสะแล้วตามด้วยแจนที่เดินไปนั่งข้างๆที่ว่างของอาร์มินอีกทีนึง
ในตอนนี้...จากชายโฉดองค์กรผู้มีอิทธพลในโลกมืด ได้กลายเป็นกลุ่มก้อนวิญญาณที่ปล่อยรีงสีทมึนจนไม่มีสาวไหนกล้าเข้ามานั่งดริ้งค์ชวนดื่มด้วยเลยสักคน เหตุเพราะว่าพวกเธอนั้นกลัวใบหน้าซังกะตายอย่างกับซากศพของพวกเขานั่นเอง
แต่แล้วความน่าเบื่อของพวกเขาก็ถูกเรียกความสนใจให้หันไปมองบนเวทีอีกครั้ง เมื่อดนตรีบรรเลงจบลงและร่างของหญิงสาวต่างกรูกลับเข้าไปหลังเวทีกันหมดทำให้พวกเขาหงุดหงิด ความบันเทิงเพียงหนึ่งเดียวจบแล้วหรือยังไงกัน
“เฮ้อ” หนุ่มห้าหน่อถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน ต่างคนต่างลุกขึ้นกำลังจะแยกย้ายไปหาอะไรทำที่บ่อนการพนันใต้ดิน แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อเพลงแปลกหูดังขึ้นเรียกความสนใจของหนุ่มทั้งห้าไปยังเวทีอีกครั้ง คราวนี้ปรากฏร่างของกลุ่มเด็กสาวกลุ่มใหม่ออกมายืนเรียงตั้งท่าพร้อมเต้นเข้าจังหวะอันสุดแสนจะเร้าใจชาย แต่ทว่าเด็กหญิงพวกนั้นหาได้สะกดสายตาของพวกเขาทั้งห้าได้แม้แต่นิด เพราะถึงจะเป็นเด็กผู้หญิงกลุ่มนี้ต่างก็ผ่านมือพวกเขามาหมดแล้วทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ทั้งห้าให้ความสนใจนั้นคือร่างของเด็กหนุ่มที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาอายุราวๆสิบห้าปียืนอยู่กลางเวทีรายล้อมไปด้วยเด็กสาวๆเหล่านั้น
เด็กหนุ่มคนนั้นใส่เสื้อรัดรูปสีน้ำเงินเข้มแต่กลับใส่เสื้อคลุมหนังแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ที่สวมอยู่นั้นมันสั้นเต่อจนเผยให้เห็นสัดส่วนและรูปร่างที่เพรียวยาวขาวเซ็กซี่ แล้วยิ่งเจ้าตัวใส่บู๊ทหนังยาวถึงเข่าแล้วช่างเป็นการแต่งตัวที่เท่ห์และเซ็กซี่ดูดีมีสไตล์มากกว่าหญิงสาวหลายๆคนที่เน้นความเซ็กซี่แต่ลืมความเหมาะสมว่าตัวเองใส่แล้วมันเข้ากับตัวเจ้าหล่อนเองรึเปล่า
จู่ๆเสียงเพลงก็ดังกระหึ่มขึ้นพร้อมกับคนที่พวกเขาต่างจับจ้องสายตาอยู่ ณ จุดๆเดียวนั้นได้วาดลวดลายลีลาการเต้นที่สุดยอดออกมา มันทั้งเร่าร้อนรุนแรงและหนักแน่นกว่าผู้หญิงที่เต้นรอบๆตัวของเด็กหนุ่มคนนั้นยิ่งนัก
ถึงท่าเต้นจะเหมือนกัน...แต่กลับให้ความรู้สึกที่ต่างกัน
นอกจากพวกเขาทั้งห้าที่มองเด็กหนุ่มบนเวทีร่ายรำได้อย่างน่าทึ่งแล้ว อาการของคนอื่นๆที่เห็นก็ไม่ต่างอะไรกันมากมายนัก ภายในใจต่างขบคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นใคร มาจากไหน และคิดคืนละเท่าไหร่...
เสียงจังหวะดนตรีสุดท้ายจบลง พวกเขาทำได้แต่เหม่อมองร่างอรชรนั้นหายลับไปหลังเวทีจนสุดสายตาราวกับถูกสะกดไว้ด้วยสเน่หาที่ตราตรึงลึกลงไปในหัวใจที่ร่างนั้นได้ปล่อยออกมาอย่างน่าประหลาด และแล้วชายหนุ่มทั้งห้าต่างก็หันมามองหน้ากันอยู่เนิ่นนานก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งออกมาพร้อมอย่างพร้อมเพรียง
“อย่าบอกนะว่า...พวกนายก็เล็งเด็กคนนั้นอยู่เหมือนกันน่ะ!?”
โอ้! พระเจ้า! ไม่ว่าฟ้าจะทล่มหรือแผ่นดินจะพังทลาย เรื่องผู้หญิงผู้ชายที่เป็นคู่หลับคู่นอนพวกเขาก็ไม่เคยที่จะใจตรงกันได้ขนาดนี้มาก่อน นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น!!!
“เดี๋ยวก่อน ไอ้เด็กคนนั้นน่ะ แกชื่ออะไรนะ เอเลนใช่รึเปล่า?”
“ครับ?”
ด้านหลังเวที เอเลนที่กำลังจะเดินไปห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อต้องชะงักเมื่อมีเสียงชายวัยกลางคนมีอายุยืนถือบุหรี่พ่นควันเรียกเขาอยู่ เอเลนหันกลับไปมองพร้อมกับทำหน้าฉงน ชายวัยกลางคนบนร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามแขนเป็นมัดๆจากการฝึกฝนเห็นดังนั้นจึงเอ่ยต่อ
“มีแขกต้องการจะพบแกว่ะ”
“ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ได้ขายบริการ เพราะฉะนั้นขอตั...” เอเลนเดินหันหลังกลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อฝ่ามือที่ใหญ่กว่าเขามากดึงรั้งกระชากเขาให้เข้ามาใกล้ๆ
“ขายไม่ขายยังไงก็ต้องไปว่ะ เพราะคนที่เรียกตัวแกไปคือเจ้าของผับที่แกใช้เต้นหากินและคอยให้เงินแกไปใช้ว่ะ ถ้าแกไม่ไปคงรับประกันชีวิตของแกว่าจะปลอดภัยรึเปล่าไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นผมเปลี่ยนผับไปรับจ้างที่ผับอื่นก็ได้!” เอเลนเริ่มขึ้นเสียงหงุดหงิดพยายามใช้แรงกระชากแขนตนให้เป็นอิสระจากฝ่ามือใหญ่ แต่ทว่าฝ่ายตรงข้ามก็ไม่มีท่าทางยอมแพ้พยายามลากตัวเด็กหนุ่มให้เดินตามไปด้วย
“ปล่อยนะ!”
“อยู่นิ่งๆสิวะ! นี่กูหวังดีกับมึงนะเว่ย!” ชายร่างยักษ์เริ่มที่จะหมดความอดทนเมื่อคนที่เด็กกว่าไม่ยอมตามมาแต่โดยดี มือแกร่งที่ว่างอีกข้างบีบแก้มเด็กหนุ่มอย่างรุนแรงบังคับให้หันมาจ้องสบตาก่อนจะตะคอกถ้อยคำที่ทำให้เอเลนหยุดดิ้นได้ไปในบัดดล “คนที่เรียกหาตัวมึงน่ะคือเจ้าของผับน่ะเว่ย! แกรู้รึเปล่าว่าเจ้าของผับที่นี่เป็นองค์กรผู้มีอิทธิพลมืดยักษ์ใหญ่คับฟ้าน่ะฮะ! ถ้ามึงไม่ไปแล้วพวกเขาหงุดหงิดล่ะก็มึงจำไว้ซะว่ามึงได้กินลูกตะกั่วแน่!”
ในตอนนี้เอเลนปล่อยให้ชายวัยกลางคนลากตัวเดินตามไปได้อย่างง่ายดายทันทีที่ได้ยินคำว่าองค์กรมืดซึ่งเป็นองค์กรใต้ดินที่ตำรวจต่างก็เข็ดขยาดไม่กล้าใช้กฎหมายเอาผิดและตามล่าตัวพวกนี้ ซึ่งก็หมายความว่ากลุ่มพวกใต้ดินนี้มันป่าเถื่อน โหดร้าย และเย็นชากันขนาดไหน ถึงขนาดจับตำรวจฆ่าต่อหน้าต่อตาสาธารณะชนอย่างเชือดไก่ให้ลิงดู เรื่องที่จะฆ่าใครสักคนคงเป็นเรื่องจิ๊บๆสำหรับคนพวกนั้น
แม้ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้ถูกเรียกตัวไปพบ แต่เอเลนคิดเพียงแค่ว่าไม่น่ามารับจ้างคิดท่าเต้นรวมถึงมาร่วมเต้นในผับแห่งนี้เลย นี่ถ้าหากเขามีเงินพอจะเลี้ยงปากท้องตัวเองล่ะก็คงไม่รีบร้อนมาหางานที่แค่เต้นบนเวทีนิดหน่อยก็ได้เงินพอเลี้ยงปากท้องไปสักสองอาทิตย์หรอก
สิ่งที่เอเลนคิดเพียงแค่อยากใช้ชีวิตที่สงบสุข เดินทางเร่ร่อนไปเรื่อยตามประสาคนไร้ที่ซุกหัวนอนปลายเท้า โดยที่ไม่ต้องมายุ่งกี่ยวกับพวกผู้มีอทธิพลมืดพวกนี้ แต่ในตอนนี้เอเลนคิดเพียงแค่ว่าขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตที่สุดแสนจะรันทดนี้ของเขาอีกเลย แค่ชีวิตที่เป็นอยู่นี้มันก็ย่ำแย่พออยู่แล้ว
_________________________
ยังไม่จบตอนที่ 1 นะคะ เนื่องจากมันยาวเกิน แล้วในบล็อกมันไม่สามารถรับตัวอักษรจำนวนมากมายเกินกำหนดได้ จึงขออนุญาตแบ่งตอนที่ 1 ออกเป็น ตอนที่ 1.5 แทนถือว่าจบตอนที่ 1 ค่ะ (ฮา)
ไม่มั่นใจเลยว่าแต่งเป็นยังไงบ้าง ทื่อไปรึเปล่า ภาษาอ่อนไปไหม บอกตามตรงว่าคู่นี้เราแต่งหลายเรืองมาก แต่ไม่ได้เอามาลงสักเรื่องเนื่องจากตันบ้าง 555 ยิ่งแต่งยิ่งห่วยบ้าง(<<ข้อนี้สำคัญที่สุด!) ประมาณนี้แหละค่ะ เลยไม่ได้เอามาลงให้ใครอ่าน ส่วนฟิคเรื่องนี้ตอนแรกกะจะแต่งเป็นฟิคสั้นแต่ไหงมันกลายเป็น All Eren ไปตั้งแต่ต้นเรื่องก็ไม่รู้ ผิดแผนหมดเลย (ฮา)
อนึ่ง ตัวละครหญิงในเรื่องถูกข้าน้อยจับแปลงเพศเป็นชายเสร็จสับด้วยความฟินส่วนตัวที่คิดว่าเอเลนนี่มันดูก็เมะไม่ขึ้นทั้งหญิงทั้งชายเลยล่ะค่ะ 5555 =..=
ช่วงนี้กระแส Free มาแร๊ง แต่...ทำไม๊ทำไมเรายังคลั่งรีเอไม่หายสักทีนะ หรือเป็นเพราะว่าอ่านโดเยอะจนโดนดาเมจความเอเลนซึมแทรกกลายเป็นโรคเอเลนลึซึมตามมิคาสะไปอีกคนแล้วนะ?
อะหุ หนูเอเลนเปิดตัวออกมาได้ยั่วเลือดกำเดาคนอ่านมากค่ะ คาดว่าเฮียๆ(?)ทั้ง 4 คงมีสภาพไม่ต่างจากแม่ยกที่กำลังกุมจมูกอยู่ ก๊ากกกก
ตอบลบว่าแต่ All Eren นี่มีความหมายเท่ากัน 5P ชิมิคะ #นอนตายอย่างเป็นสุข
ออล เอเลน มิคาสะเป็นชาย!!! แฮ่กๆๆๆๆๆ(?)
ตอบลบอ้ากกกกกกกกกกกกกก
ตอบลบฟินตรงมิคาสะเป็นผชนี่แหล่ะ
55555555555+