วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

[Fic] Attack on Titan : เนื้อคู่ ประตูไหนดี ตอนที่ 1.5 (All Eren)//ฉบับยังไม่ได้แก้ไขสำนวน


เนื้อคู่ ประตูไหนดี ฉบับแก้ไขสำนวน&คำผิด >>จิ้ม<<

Fiction : Shingeki no Kyojin : Attack on Titan
Title : เนื้อคู่ ประตูไหนดี
Author : มิดไนท์-Sama
Pairing : All Eren
Rating : PG 15 (แค่ในตอนนี้นะ อนาคตจะมีปลี่ยนเรื่อยๆเป็นตอนๆไป)
Warning : -

หมายเหตุ : ที่เกียจทำหน้าเครดิตจัง (ฮา) อีก 1 อาทิตย์เราจะนำเรื่องนี้ตอนที่ 1 ไปลงในเว็บเด็กดี โดยที่อัพตอนที่ 2 ลงในบล็อกนี้ค่ะ (ก็ง่ายๆคือที่บล็อกนี้จะอัพเร็วกว่าเว็บเด็กดีค่ะ)
_______________________________________________





เอเลนถูกพามายืนหยุดอยู่หน้าประตูห้องหนึ่งที่มีป้ายแขวนสีน้ำตาลขลิบทองถูกเขียนตัวเด่นหราด้วยตัวหนังสือสีทองว่า ‘V.I.P.’ เด็กหนุ่มพยายามห้ามมือที่สั่นเทาด้วยความกลัวเอื้อมไปผลักประตูบานนั้น  ทันทีที่ย่างเท้าเข้าไปในห้อง สายตาหวานสีมรกตคู่โตก็ต้องชะงักเมื่อแทนที่จะเห็นกลุ่มคนหน้าเถื่อนนั่งสุมหัวสูบบุหรี่ดื่มสุราเมรัยหน้าตาดิบโฉดตามที่จินตนาการไว้กลับกลายเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาห้าคนที่แต่งตัวด้วยชุดสูทหรูหราตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนเป็นสีดำมันวาวทั้งสิ้น

อย่างกับพนักงานบริษัทแหนะ เด็กหนุ่มคิด

ไม่มีการสูบบุหรี่ แต่ก็มีเหล้าที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์อ่อนๆสามขวดพร้อมแก้วที่บรรจุของเหลวเหล่านั้นวางไว้หกแก้วเพียงเท่านั้น เห็นแล้วมันชวนให้คิดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่พวกองค์กรผิดกฏหมาย

ในขณะที่เอเลนยืนเก้ๆกังๆทำตัวไม่ถูกเมื่อมีสายตาคมดุดันหลายคู่จ้องมองมาอย่างนิ่งๆนั้น จู่ๆชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแต่กลับดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามากผายมือเอ่ยเชิญให้เอเลนเข้าไปนั่งข้างๆด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่อ่อนโยน

เอเลนเดินไปนั่งลงข้างๆอย่างช้าๆพลางเหลือบตาสังเกตชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำและนัยตาสีดำด้านข้างเล็กน้อมก่อนจะไล้สายตาไปมองคนอื่นๆในนี้แทน

นอกจากชายหนุ่มผมดำที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแล้วยังมีอีกสองคนที่ดูท่าทางจะอายุไม่ได้เยอะไปกว่าเขาเท่าไหร่ คนหนึ่งคือชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองนัยตาสีฟ้าที่ดูเป็นมิตรและน่าเข้าใกล้ที่สุดภายในกลุ่มคนพวกนี้ อีกคนเป็นชายหนุ่มที่สูงกว่าเขาก็มากอยู่ คนๆนั้นเป็นเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนโดยที่กลุ่มผมแถวท้ายทอยมีสีเข้มกว่าส่วนอื่นๆมากนัก ส่วนอีกสองคนถัดไปดูแล้วน่าจะเป็นผู้ใหญ่กว่าสามคนนี้มากโข คนหนึ่งเป็นชายร่างสูงผู้ที่จัดทรงผมได้เนี๊ยบเรียบแปล้ ตรงกลุ่มผมบริท้ายทอยถูกไถออกจนเกรียน ซึ่งคนๆนี้ก็ดูท่าทางมีเค้าของความใจดีอยู่บ้าง ส่วนคนที่เป็นผู้ใหญ่อีกคนที่นั่งข้างๆกันนั้นถึงทรงผมไม่ได้ถูกจัดเซ็ตให้เรียบแบบคนแรกแต่ไว้ผมแสกหน้าแทน ส่วนกลุ่มผมด้านหลังนั้นเจ้าตัวได้โกนออกไปเหมือนกับชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งข้างๆกัน ทว่าสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างผู้ใหญ่ร่างสูงและร่างเตี้ยนั้นไม่ได้มีแค่ขนาดตัว แต่สายตาที่มองมากลับต่างกันโดยสิ้นเชิง ดูไม่น่าเข้าใกล้...และอันตราย

“เอ่อ...มีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ” เอเลนทำใจกล้าเอ่ยถามออกไป

“ถ้าไม่มีพวกเราจะเรียกตัวนายมางั้นเหรอ” คำพูดยียวนกวนประสาทดังออกมาจากปากชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา คิ้วของเอเลนกระตุกด้วยความหงุดหงิด ความรู้สึกอยากจะตั๊นหน้าใครสักคนให้หงายแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย แต่หากก็ต้องพยายามข่มอารมณ์เอาไว้พลางท่องในใจว่าคนพวกนี้คือหนึ่งในกลุ่มผู้มีอิทธิมืด เป็นพวกนอกรีตไร้ศาสนาที่แม้แต่ตำรวจก็ไม่กล้าเข้ามายุ่มย่ามและใช้กฎหมายเอาผิด

“แจน” ชายหนุ่มผมดำที่เป็นคนเรียกเขาให้มานั่งข้างๆเอ่ยปรามเสียงเรียบ ทำให้ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนสลับเข้มที่ชื่อแจนนั้นทำท่าฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ยอมสงบลงแต่โดยดี

“สวัสดี ฉัน มิคาสะ แอ็กเกอร์แมน เป็นเกียรติที่ได้รู้จักกับคนน่ารักอย่างเธอ เธอชื่ออะไรล่ะ”

เอเลนหน้าชาวาบไปชั่วขณะที่ถูกชมว่าน่ารัก คำๆนี้ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี เขาไม่ได้อยากเกิดมาหน้าตาแบบนี้สักหน่อย!

“ฉันชื่อเอเลน...เอเลน เยเกอร์”

“เอเลน...เป็นชื่อที่เพราะดีนะ ถึงตาผมแนะนำตัวบ้าง ผมชื่ออาร์มิน อัลเรลโต้ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชายหนุ่มผมทองทั้งหัวเจ้าของนัยตาสีฟ้าสดใสแนะนำตัวแล้วผายมือไปยังคนที่นั่งข้างๆซึ่งพูดจาหาเรื่องเขาอยู่เมื่อกี๊นี้ “ส่วนคนนี้ชื่อแจน กิลชูไตน์ เอ่อ...เป็นคนค่อนข้างปากไปคนละทางกับใจแบบสุดๆน่ะ ถ้าเขาพูดจาไม่เข้าหูบ้างก็อย่าไปสนใจเลย”

“หา! นายว่าใครปากไปคนละทางกับใจแบบสุดๆฟระ!” แจนกระชากคอเสื้ออาร์มินขึ้นมาอย่างหาเรื่องแต่อาร์มินก็หาได้สะทกสะท้านยังคงยิ้มร่าอย่างอ่อนโยนแล้วพูดต่อไป “อย่างเช่นตอนนี้แจนเขากำลังเขินอยู่สุดๆเลยล่ะ แต่แกล้งทำกลบเกลื่อนด้วยการใช้กำลัง เป็นไงล่ะ อย่างที่ผมพูดเลยใช่ม้า ปากไปคนละทางกับใจจริงๆ”

เมื่อโดนเพื่อนผมทองแฉหน้าแจนก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันควัน อยากจะตะบันหน้าที่แกล้งใส่หน้ากากแกะน้อยนั่นให้หลุดจริงๆหากไม่ติดว่ามีหัวหน้าและร้องหัวหน้าผู้ขับเคลื่อนกลุ่มนี้อยู่ด้วยล่ะก็นะ

“เด็กๆเขาแนะนำตัวกันไปหมดแล้วตาฉันแนะนำตัวบ้างสินะ ฉันชื่อเอลวิน สมิธ ยินดีที่ได้พบเธอในระยะประชิดแบบนี้ ส่วนคนที่นั่งปั้นหน้าโหดข้างๆฉันชื่อรีไว ถ้าจะให้ดีขอแนะนำว่าอย่าไปทำให้เขาโกรธดีกว่านะ” เอลวินเอ่ยเตือน แต่ยังไม่ทันขาดคำก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้เมื่อเด็กหนุ่มผลอโพล่งคำๆหนึ่งออกมาโดยไม่ทันคิดให้ดีก่อน

“ตัวเล็กจังนะครับ”

เพียงแค่นั้นแก้วเหล้าที่อยู่ในมือรีไวหลุดลอยไปกระแทกกำแพงจนมันแตกละเอียด ความจริงแก้วเหล้าใบนั้นมีเป้าหมายพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างจัง ถ้าหากมิคาสะที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ไหวตัวทันโดยการใช้ตัวของเขากดทับเอเลนลงติดกับโซฟาล่ะก็ ป่านนี้ไม่อยากจะนึกเลยว่าจะต้องไปให้หมอรักษากี่เข็ม

มิคาสะจ้องตอบรีไวไปด้วยสายตาที่ดุดันหากแต่รีไวกลับทำเฉยต่อสายนั้นราวกับกำลังยั่วโมโหเด็กรุ่นน้องในแก๊งอยู่ แรงทุบเล็กๆแถวหน้าอกทำให้มิคาสะยันกายขึ้นมาปล่อยให้คนที่ตนเผลอกอดไปโดยอัตโนมัติลุกขึ้นมาขวนขวานหาออกซิเจนเพื่อใช้ในการหายใจ

มิคาสะเหล่มองภาพเอเลนที่หอบปนตื่นกลัวเล็กน้อยจากเหตุการณ์เมื่อก็นี้สลับกับก้มมองมือของตัวเองที่ใช้กอดร่างนั้น สัมผัสจากร่างนั้นมันเหมาะมือจนน่าใจหาย กลิ่นกายแบบเด็กผู้ชายแต่หอมหวานล้ำชวนให้เผลอตวบคุมสติไม่อยู่ ถ้าหากได้ลองจับร่างนั้นกกกอดสักทีคงจะได้รู้ว่าร่างกายของเขากับร่างกายของเอเลนจะเข้ากันได้ถึงเพียงไหน

“แย่ล่ะสิ” มิคาสะพึมพำออกมาเบาๆแต่กลับได้ยินกันทั้งห้อง ร่างโปร่งรีบลุกขึ้นหนีไปยืนพิงกำแพงอีกด้านฝ่ามือข้างหนึ่งกำแน่นพร้อมกับทุบลงไปบนกำแพงแข็งๆหนึ่งที ลมหายใจติดขัดขาดห้วงไม่เป็นจังหวะ คิ้วเรียวขมวดกันเป็นปมอย่างกับพยายามจะสะกดกลั้นอะไรบางอย่าง

“มิคาสะ ไม่ได้ทำมากี่วันแล้วล่ะ” อาร์มินถามด้วยสีหน้าติดจะเป็นห่วงเพื่อนสนิทนิดๆ

“สอง...”

“สองวันแค่นี้ก็ทนไม่ได้ซะแล้ว เด็กจริงๆ” รีไวเอ่ยคำพูดเย้ยหยัน ทำให้มิคาสะกัดฟันแน่นกรอดจนขึ้นเป็นสันนูนเห็นเด่นชัดอยู่ข้างแก้ม

“สองอาทิตย์” มิคาสะเลือกที่จะกลั้นใจตอบให้เคลียร์ เพราะเธอหมันไส้ไอ้รองหัวหน้าตัวเตี้ยนั่นชะมัด เขาไม่ได้เป็นคนต้องการจัดที่ขนาดแค่สองวันก็ทนไม่ได้ซักหน่อย!

“ทำไมถึงปล่อยทิ้งห่างไว้ตั้งสองอาทิตย์ล่ะ” อาร์มินลุกขึ้นเดินไปหาพลางมองลึกลงไปในดวงตาที่เหมือนต้องการอะไรบางอย่างกำลังปะทุอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น

“เบื่อ! เลี่ยนกลิ่นน้ำหอมแรงๆของยัยพวกนั้นเต็มทน”

“งั้นก็กอดผู้ชายแทนก็ได้นี่”

“หึ เดี๋ยวนี้มีแต่พวกจริตจก้านน่ารำคาญ”

“อา นั่นสินะ ผมเองก็เหมือนกัน เอางี้นะ นายหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ”

มิคาสะพยักหน้าเล็กน้อย หลับตาลงแล้วทำตามในสิ่งที่เพื่อนร่างเล็กแนะนำ และก็ได้ผลเมื่ออาการรุ่มร้อนดิบเถื่อนของตนกำลังมอดดับลงอย่างช้าๆ จนในที่สุดมันก็ดับสนิท และเจ้าตัวก็เดินกลับมานั่งข้างๆเอเลนอย่างธรรมดาเหมือนเหตุการณ์เมื่อกี๊ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มีเพียงเอเลนที่นั่งมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ มิคาสะเป็นอะไร หายใจหอบแรงแบบนั้นไม่ได้เป็นโรคหอบหืดหรือโรคหัวใจหรอกหรือไง

“ไปโรงพยาบาลดีกว่าไหม” เอเลนเอ่ยด้วยความเป็นห่วงแต่กลับเรียกเสียงหัวเราะพรืดได้จากเอลวิน แจน และอาร์มินได้ไม่น้อย มิคาสะและรีไวต่างนั่งกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงสาที่ดูท่าจะเกินคาดกว่าที่คิดไว้

“ฮะๆๆ นายเนี่ย...ไร้เดียงสาชะมัดเลยว่ะเอเลน ฮ่าๆๆ ทั้งๆที่เต้นออกท่าทางแบบนั้นบนเวทีแท้ๆ นิสัยจริงๆโคตรจะตรงข้ามกับตอนอยู่บนเวทีชะมัด”

“ตัวฉันตอนทำงานต่างกับตอนนี้ตรงไหนฮะ!” เอเลนเผลอแหวใส่อย่างลืมตัวด้วยความเลือดร้อน แจนหันขวับมามองทันที ผู้ชายตรงหน้ามันน่าจับเข้าโรงแรมสั่งสอนให้ร้องครางหงิงอยู่ภายใต้ร่างของตนเสียจริงๆ

“เอาล่ะ” เอลวินตบมือแปะๆเรียกความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง เอลวินหันมองจ้องใบหน้างามของเด็กหนุ่มเอเลนพลางส่งยิ้มน้อยๆไปให้ก่อนจะพูดต่อ “ที่พวกเราเรียกเธอมาที่ห้องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก แค่สนใจเด็กหนุ่มที่วาดลีลาได้สวยเกินกว่าที่คาดจนน่าทึ่งเท่านั้นเอง แค่อยากเห็นตัวเธอใกล้ๆน่ะเอเลน” เอลวินหยุดสูดลมหายใจไปสักพักแล้วเอ่ยต่อ “ฉันชอบท่าเต้นของเธอ มันดูมีชีวิตชีวาดี และดูลูกค้าหลายคนก็ท่าจะชอบกัน ฉันผู้เป็นเจ้าของผับนี้ขอเสนอให้เธอมาทำงานอยู่ที่นี่ได้รึเปล่า”

เอเลนอึ้งค้างมองตาปริบๆ ลืมตัวไปว่าตัวเองกำลังอยู่กับพวกมาเฟีย แต่เพราะคนพวกนี้ทั้งแปลกแลดูจะติดผู้ดีมากกว่าโฉดเถื่อนทำให้เขาเผลอลืมตัวทำกริยาไร้มารยาทที่หากเป็นแก๊งอื่นๆล่ะก็เงาหัวของเขาอาจจะหายไปเลยก็ได้
...คนพวกนี้ช่างเป็นแก๊งองค์กรใต้ดินที่แปลกประหลาดซะจริงๆ...

เมื่อเอเลนได้ฟังข้อตกลงเสนอเรื่องที่พักใกล้ๆที่นี่และราคาค่าตัวของเขาที่จะได้รับในแต่ละวันมันน่าสนใจดีก็เลยยอมเอ่ยปากตกลงรับงานออกไปโดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นแผนที่เอลวินวางไว้เพื่อรั้งตัวเด็กหนุ่มผู้ไม่ทันต่อโลกให้อยู่ที่นี่ให้นานที่สุด



เอเลนจากไปแล้ว ในห้องV.I.P.สุดหรูมีเพียงห้าหนุ่มหล่อนั่งกันเหมือนเดิม เมื่อลูกกระต่ายน้อยจากไปเหลือเพียงแต่หนุ่มโสดสายกินเนื้อเหมือนกัน ภายในห้องนี้ยังมีอะไรที่น่าเจริญหูเจริญหาอีกเล่า แต่เมื่อกระต่ายน้อยไม่อยู่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาสามารถแสดงธาตุแท้ออกมาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวกระต่ายตื่นตูม

“ทำไมนายถึงขว้างแก้วใส่เอเลน” มิคาสะเป็นคนเปิดหัวข้อสนทนาขึ้นมา

“อยู่ด้วยกันมาก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ”

“เรื่องที่เอเลนเผลอพูดจี้จุดอ่อนว่านาย เตี้ย งั้นเหรอ” มิคาสะจงใจเน้นคำยียวน แก้วเหล้าที่อยู่บนโต๊ะถูกหยิบขึ้นมาขว้างอย่างรวดเร็ว แต่คราวนี้มิคาสะไม่หลบกลับรับมันไว้ได้อย่างง่ายดาย แล้วเทของเหลวที่เหลืออยู่ก้นแก้วลงคอจนหมดแล้วเขวี้ยงทิ้งไปด้านหลังจนมันไปกระทบกับผนังจนแตกกระจายเสียเอง

“มิคาสะ...ปกตินายจะเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีอยู่แล้ว ห่างจากเรื่องเซ็กส์แค่สองอาทิตย์ก็ไม่เกินกำลังที่นายจะควบคุมตัวเองให้ได้ไม่ใช่รึไง” เอลวินเอ่ยเสียงเรียบ เลื่อนแก้วอีกใบที่อยู่บนโต๊ะเข้ามาใกล้แล้วหยิบเหล้าแรงๆที่เขาแอบเก็บซ่อนไว้ข้างๆเบาะขึ้นมารินแบบเพียวๆโดยไม่ผสมโซดายกมันขึ้นซดราวกับเป็นน้ำเปล่า

“อา...ครับ ผมเกือบควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้กำลังขืนใจเอเลนในห้องนี้ไม่ได้ เป็นความผิดพลาดจริงๆ แต่แค่เผลอไปจับเอวนั่นแล้วกลิ่นตัวของเด็กคนนั้นอีก มันเย้ายวนเกินไป”

“ขนาดนั้น?” แจนเลิกคิ้วถามพลางหยิบยกบุหรี่ที่เก็บซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อตัวในขึ้นมาจุดสูบ

“ขนาดนั้นเลย คนๆนั้น...เอเลนน่ะยังมีกลิ่นไอแบบเด็กน้อยแรกแย้มหลงเหลืออยู่เต็มไปหมดเลย ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ทั้งๆที่เราก็อายุเท่ากันแท้ๆแต่ทำไมถึงได้ต่างกันขนาดนี้นะ” มิคาสะนั่งเอามือกุมหน้าด้วยความไม่เข้าใจ

“พวกเรามันโตเร็วเกินไปไงล่ะ” อาร์มินพูดไขข้อข้องใจ “พวกเรารู้จักวิธีจับปืนก็ตอนหกขวบแล้วในขณะที่เอเลนยังเป็นเด็กที่ไปโรงเรียนตามปกติ พวกเราเริ่มฆ่าคนก็ตอนเจ็ดขวบในขณะที่เอเลนยังวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ พวกเราเริ่มมีอะไรกับผู้หญิงครั้งแรกก็ตอนที่เข้าวัยพอที่จะทำอะไรต่อมิอไรกับผู้หญิงได้แล้ว พวกเราน่ะมันโตเร็วเกินไป ถูกเสี้ยมสอนให้รู้จักในด้านสกปรกของโลกมากเกินไปจนไม่เหลือเค้าความเป็นเด็กแล้วยังไงล่ะมิคาสะ แต่ก็น่าแปลกเพราะจากการสำรวจและศึกษาเด็กวัยอายุสิบห้าจะเริ่มไม่ไร้เดียงสากันแล้ว แต่เอเลนกลับไม่ใช่...นี่เขาแอบหลับในคาบวิชาสุขศึกษารึยังไงกันนะ ฮะๆๆ” อาร์มินหัวเราะขำน้อยๆเมื่อคิดถึงเวลาที่เอเลนแอบหลับในคาบวิชาสุขศึกษา

“ไม่ใช่ว่าเด็กนั่นแกล้งทำตัวไร้เดียงสาหรอกเหรอ” คำพูดของรีไวเรียกความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง “ถ้าไร้เดียงสาจริงจะเต้นยั่วผู้ชายได้ถึงใจขนาดนั้นเลยรึยังไง”

“ไม่หรอก เอเลนยังไร้เดียงสาจริงๆ จมูกของฉันไม่เคยพลาดหรอกนะ เอเลนไม่ฉีดน้ำหอมมีแต่กลิ่นสบู่อ่อน ถ้าเป็นปกติของผู้หญิงหรือผู้ชายที่ขายบริการจะฉีดน้ำหอมฟุ้งซะจนเลี่ยน และอีกอย่างเซนต์ของฉันมันฟ้องว่าเอเลนไร้เดียงสาและซื่อบริสุทธิ์อยู่จริงๆ”

“บางที...อาจมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เด็กคนนั้นต้องมาทำแบบนี้ก็ได้นะ อย่างเช่น...เหลืออยู่เพียงตัวคนเดียว”

“นายรู้ได้ยังไงเอลวิน” รีไวถาม

“ตอนทีฉันลองหยั่งเชิงเสนอห้องพักให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเด็กคนนั้นดูดีใจมาก ดีใจเหมือนกับคนที่ในที่สุดก็ได้มีที่พักอาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งเสียทีประมาณนั้น”

“งั้นเหรอ”

และแล้วบทสนทนาถึงตัวของเด็กหนุ่มเอเลนก็ยังดำเนินต่ไปเรื่อยๆจนพวกเขาแยกย้ายกันกลับไปยังที่พักของตัวเอง ไม่มีใครสักคนในนั้นเข้าใจว่าทำไมต้องคอยแคร์เด็กหนุ่มผู้นั้นทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันด้วย ทั้งเหล้าแรงๆและบุหรี่ก็เลือกที่จะไม่สูบไม่กินต่อหน้า ไหนยังจะสันดารธาตุแท้ที่ต้องคอยเก็บซ่อนให้มิดชิดไว้นั่นอีก แถมการที่จะต้องมาคอยแคร์ใครให้ยุ่งยากวุ่นวายแบบนี้สู้จับกดใช้กำลังขู่บังคับเผด็จศึกเลยจะง่ายกว่ากันตั้งเยอะก็เลือกที่จะไม่ทำ


...ชายหนุ่มทั้งห้าได้แต่เพียงเก็บความสงสัยนี้ไว้อยู่ในใจเพียงเท่านั้น...








_______________________________________________

จบตอนที่ 1 ค่ะ

บอกตามตรงอีกครั้ง ไม่มั่นใจจริงๆว่าจะสนุกหรือเปล่่า (พวกความมั่นใจในตัวเองไม่ค่อยมี 5555)

แอบอู้จากทำการบ้านมาแต่งฟิค
อยากจะบ้าตายกับการบ้าน วิชา conver ไม่มีเกรด แต่ครูผู้สอนสั่งอย่างกับวิชานี้ 1 หน่วยกิจ เหอๆๆ//นอนตายอย่างไม่สงบ ส่วนท่านอื่นๆก็...เอ่อ...ช่วยสั่งการบ้านที่มันทำง่ายๆหน่อยได้มั้ยคะ หนูงานทั่วหัว เคลียร์แล้วอาจารย์จะสั่งเพิ่มทำม๊ายยยย!!!

โอย มึน...พล่ามโน่นพล่ามนี่เรื่องการบ้าน จบและ
โครงการแปลโดจินใหม่มาแล้วค่า ยังเป็นคู่รีเอจากไททันเหมือนเดิม และ 18+

:::ช่วงถามเองตอบเอง:::
Q : ตกลงบล็อกนี้จะเป็นบล็อกไททันไปอีกบล็อกหรือเปล่าคะ
A : ม่ายยยยย!!!! ไม่! ไม่! ไม่! ไม่! ค่า =[]= บล็อกวายทั่วไปที่มีโดจินวาย(ซึ่งมากกว่ามังงะ) มังงะวาย ฟิควาย เรื่องอื่นๆ แต่เหตุที่ช่วงนี้มีแต่ไททันก็เพราะความบ้าล้วนๆ ยิ่งถลำลึกเข้าสู่คู่รีเอเท่าไหร่ มันก็ยิ่งพบเจอความโมเอ้ของคู่นี้มากขึ้นเท่านั้นเอง...จริงๆนะ




8 ความคิดเห็น:

  1. สะ สุด ยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด มาต่อนค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    ตอบลบ
  2. ว๊ากก หาออลเอเลนมาตั้งนานแล้ว เหนไม่ค่อยมีคนแต่งเลย
    ชอบมากเลยค่ะแนวเอเลนไร้เดียงสาาเนี่ยย จะคอยติดตามนะค่ะ >w<

    ตอบลบ
  3. ฟิน~~~~ กระต่ายน้อยเอเลนน่ารักอ้าาาาาาาาา อยู่ท่ามกลางดงสัตว์กินเนื้อแบบนี้ระวังโดนกินนะหนูจ้า(ระวังให้ตายยังไงก็โดนกินอยู่ดี...)
    ในที่สุดก็เจอAllerenซธที อาาาาาา

    ไม่เคยเจออาร์มินเวอร์ชั่นนี้มาก่อนแหะ แต่ก็น่าหนุกดีจัง คริๆๆๆ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ15 ก.ค. 2556 09:12:00

    โคตะระจะโมเอ้เลยคร่าาา ชอบนัก เอเลนฉบับไร้เดียงสาไม่ทันคนเนี่ย

    ปล.มิคาสะ เก็บอาการหน่อยลูก แหม่~~~~

    เฮย์โจว พี่ทั่นโหดเกินไป๊ แค่โดนคำว่าเตี้ย(?)เข้าไป แค่นี้ถึงกับปาแก้วใส่เอเลนเลยหรอค๊าาา

    ความประทับใจแรกเริ่มเดี๋ยวเป็นอันได้ติดลบหมดตูดกันพอดี

    อ้อ ลืมไป ลูกหมาเอเลนมันสาย M ต้องเจอ S อย่างรีไวล์ถึงจะดี เคมีมันเข้ากัน กร๊ากกก

    ชั้นเพ้ออัลไล~~~~

    ตอบลบ
  5. มิคาสะ แหม่ ไม่ได้มีซัมติ้งมาสองอาทิตย์ พอใกล้เอเลนเป็นแบบนี้เลยงั้นเหรอ น่าเป็นห่วงจัง

    ตอบลบ
  6. สุดยอดดดดดดดดดดดด


    อ้ากกกก

    คลั่งเอเลน

    555555+

    จะกี่Pก็เอาหมดแล้วตอนนี้

    ตอบลบ
  7. สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แฮ่ก ๆๆ เหนิ่อย ฮ่าๆๆ

    ตอบลบ